อนาคตของมูรินโญ่ กับถ้วยคาราบาวคัพ

อนาคตของมูรินโญ่ กับถ้วยคาราบาวคัพ

โชเซ่ มูรินโญ่ ชื่อนี้การันตีได้เลยว่าหลังเกมหากแพ้มีบทสัมภาษณ์แซ่บไปเขียนได้ต่ออีกหลายวันแน่นอน แล้วก็จริงหลังเกมที่เค้าแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีประเด็นร้อนหลังเกมกับเคสของ ซอน เฮือน มินกันด้วย อย่างไรก็ตาม อนาคตของมูรินโญ่ เรามองว่าน่าจะถูกตัดสินในเกมชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ มากกว่า

เจอ ซิตี้ไม่ง่าย

แน่นอนว่าคู่ชิงชนะเลิศของพวกเค้าก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาดิโอลาร์ ที่ตอนนี้พวกเค้าวางแผนจะดำเนินการอุกอาจคว้า 4 แชมป์หลักในซีซั่นเดียวกันให้ได้ ตอนนี้ ลีค คัพ น่าจะเป็นก้าวแรกที่ดี ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะได้แชมป์รายการนี้ติดกันมาหลายซีซั่น แต่ก็คงอยากได้อยู่ เพื่อทำภารกิจดังกล่าวให้ได้ แน่นอนว่าแม้ว่า มูรินโญ่ จะเป็นเจ้าพ่อผู้เชี่ยวชาญในการพาทีมลงเตะบอลถ้วย กับแท็คติคชวนน่าอึดอัดก็ตาม แต่ว่างานนี้ซิตี้ไม่ง่ายแน่นอน

ได้แชมป์ อาจจะอยู่ต่อ(หรือเปล่า)

ทีนี้เราบอกว่า อนาคตอยู่ที่ถ้วยนี้เลย เพราะว่าหากเค้าได้แชมป์ น่าจะเป็นแชมป์แรกในรอบหลายปีมากของสเปอร์ส นั่นอาจจะทำให้ มูรินโญ่ ได้คุมทีมต่อไปในซีซั่นหน้าแบบ 50% เพราะเอาเข้าจริงต้องดูผลงานในลีคประกอบกันด้วย หากได้แชมป์แต่ว่าไม่ได้ไป UCL พวกเค้าอาจจะเลือกปลด มูรินโญ่ ก็เป็นได้เหมือนกัน

ไม่ได้แชมป์ไปแน่นอน

ส่วนกรณีที่พวกเค้าวืดแชมป์นี้ในรอบชิงชนะเลิศ บอกตามตรงว่า มูรินโญ่ อาจจะต้องแยกทางกับทีมหลังจบซีซั่นนี้อย่างแน่นอน เพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่เก็บเอาไว้เลย สู้ไปลุ้นกับคนใหม่ในตลาดดีกว่า แล้วถ้าหากจะยึดตามบอลตั้งรับแบบนี้ เรามองว่า เสี่ยงกับ อัลเลกรี ดูน่าจะได้ลุ้นกว่าเยอะเลย แต่ถ้าหากจะใจร้ายกว่านั้นอาจจะปลดแล้วหาคนอื่นมาทำแทนในช่วงที่เหลือของซีซั่น เพื่อวางแผนต่อเลยมากกว่า เราเชื่อว่า มู เองก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี เลยต้องการได้แชมป์นี้เหมือนกัน อีกทั้งถ้าได้แชมป์ตัดหน้าเป๊ป มันคงจะเป็นอะไรที่สะใจเค้ามากทีเดียว ว่าแต่จะทำได้ไหมล่ะ

ประเด็นน่าสนใจ เกมผีเจอกรานาด้า

ประเด็นน่าสนใจ เกมผีเจอกรานาด้า

ต้องถือว่าเป็นเส้นทางที่กำลังสวยเลยสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเดินทางไปทีละก้าวบนเส้นทางถ้วยยูโรป้าลีค เกมนัดแรกเอาชนะกรานาด้ามาได้สบาย แต่ว่าก็ต้องแลกกับการโดนเหลืองจนติดโทษแบนของนักเตะสามคน นั่นทำให้เกมนี้มีประเด็นน่าสนใจก่อนเกมเหมือนกัน ดังนี้

ใครจะเป็น ผู้รักษาประตู

ไม่น่าเชื่อว่า นี่จะเป็นหัวข้อที่เราต้องมาพูดกันทุกเกมไม่ว่าจะเป็นเกมกลางสัปดาห์ หรือ เกมลีคสุดสัปดาห์ นั่นก็คือ การลงสนามของผู้รักษาประตูที่ตอนนี้กลายเป็น พี่เด ต้องมาลงถ้วยนี้แทน ในฐานะมือหนึ่งจุดห้าของทีม น่าสนใจว่าเกมนี้จะเป็นพี่เด ต่อเนื่องหรือไม่ หรือว่าน้องดีน จะได้ลงอีก แม้ว่าจะไม่คลีนชีตในเกมกับสเปอร์ส แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยม

ตัวแบนใครลงแทน

เกมที่แล้ว แมนยู เสียเหลืองทำให้ติดโทษแบนถึงสามคนก็คือ ลุค ชอว์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น่าสนใจก็คือ จะให้ใครลงแทน เอาตำแหน่ง ลุค ชอว์ก่อน ไม่น่าจะยาก น่าจะเป็น อเล็กซ์ เตลเลส์ ส่วนเซนเตอร์แบ็คตัวกลางน่าสนใจเพราะตามตำแหน่งน่าจะเป็น เอริค ไบญี่ แต่ว่าเจ้าตัวติดโควิท ทำให้ลงสนามได้ ทำให้น่าจะเหลือตัวเลือกเป็น เอ็กเซล ตวนเซเบ้ และ สกอตต์ แม็คโท น่าจะเป็นมาติช ลงแทนเพื่อคุมจังหวะเกมคู่กับ ป็อกบา

กองหน้า ใครดี

ทีนี้กองหน้า คำถามก็คือ เกมนี้จะส่ง เอดินสัน คาวานี่ อีกไหม หากว่ากันตามตรงเจ้าตัวที่ลงเล่นในเกมก่อนแบบเต็มเวลา น่าจะล้ามากพอสมควร เกมนี้น่าจะออกสตาร์ทเป็นสำรองมากกว่า ส่วนตัวมองว่า น่าจะเป็นแรชฟอร์ด หรือไม่ก็ กรีนวู้ด ลงก่อน จากนั้น หากเกมไม่ดีขึ้น คาวานี่ น่าจะได้ลงมายืนค้ำหน้า เพื่อทำประตูปิดบัญชีให้ได้ ดูสภาพแล้วจะว่าง่ายก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว ขาดตัวหลักในเกมรับไปสองคนพร้อมกันอย่างนี้ ได้เวลาพิสูจน์กึ๋นโซลชาเหมือนกันว่าจะเอาตัวรอดได้แค่ไหน หากรอดไปได้ ทั้งสามคนน่าจะล้างใบเหลืองแล้วยิงยาวได้จนถึงรอบชิงเลย

เวสต์บรมวิช กับ เกมตัดสินชะตากรรม

เวสต์บรมวิช กับ เกมตัดสินชะตากรรม

หลายคนคงโฟกัสไปที่เกมใหญ่ของพรีเมียร์ลีค ในสัปดาห์นี้ แต่ว่ามีอยู่เกมหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นเกมแห่งฤดูกาลได้เลย ของเวสต์บรอมวิช พวกเค้าพยายามอย่างมากดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น ซึ่งพวกเค้าก็พยายามแล้วแต่มันไม่ดีพอจริงๆ ตอนนี้เกมของพวกเค้ามาถึงนัดตัดสินชะตากรรมในสัปดาห์นี้

เจอกับทีมอันดับไม่ห่างมาก

เวสต์บรอมวิช ได้เล่นเป็นเจ้าบ้านในเกมนี้เจอกับ ไบร์ทตัน ต้องบอกว่า นี่เป็นเกมตัดสินเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นเกมที่ เวสต์บรอมวิช เจอกับคู่แข่งที่ไม่ห่างกันมากนัก เวสต์บรอมอยู่อันดับ 19 ส่วนไบร์ทตัน อยู่อันดับ 16 ไม่เพียงเท่านั้นมองจากคุณภาพตัวผู้เล่น แม้ว่า ไบร์ทตัน จะดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก เวสต์บรอมวิช หากสวมหัวใจสิงห์ลงสนามก็มีโอกาสชนะได้เหมือนกัน

โอกาสชนะ เพื่อยื้อชีวิต

เกมนี้ก่อนลงสนาม เวสต์บรอมวิช อยู่อันดับที่ 19 มี14 คะแนน ห่างจากพื้นที่ปลอดภัยอย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่อันดับ 17 มีอยู่ 25 คะแนน อยู่ 11 แต้ม อาจจะมองว่าห่างเยอะ แต่ถ้าหากว่าพวกเค้าสามารถชนะไบร์ทตันได้ ก็จะทำให้เค้ามี 17 คะแนน ลดช่องว่างของคะแนนลงมาด้วย และทำให้ ไบร์ทตัน มีอยู่ 26 คะแนนเท่าเดิม ช่องห่างขนาดนี้กับเกมที่เหลืออีก 13 นัด ก็น่าลุ้นกับ เวสต์บรอมวิชว่าจะรอดหรือไม่ด้วย แต่ถ้าหากเวสต์บรอมวิช แพ้ ก็จะถูกทิ้งห่างช่องว่างไปอีกเป็น 15 คะแนน หากเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าพวกเค้าเตรียมขนของลงไปเล่นลีค เดอะแชมเปี้ยนชิพได้เลย มองยังไงก็ไม่ทัน

เกมที่เหลือไม่น่ารอด

ที่เราต้องบอกว่านี่คือโอกาส เพราะว่าในโปรแกรมที่เหลือของ เวสต์บรอมวิช ต้องใช้คำว่า เข็นครกขึ้นภูเขา กันเลยทีเดียวหากหวังจะอยู่รอด เพราะว่าต่อจากนี้พวกเค้าจะเจองานยากเกือบทุกเกมเลย ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, แอสตัน วิลลา, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล ซึ่งกับทีมเหล่านี้ เก็บได้ 1 แต้มก็เก่งมากแล้วดังนั้นเกมที่น่าชนะอย่างนี้เพื่อต่อชีวิตพวกเค้าต้องทำให้ได้ แล้วจากนั้นค่อยมาลุ้นกัน

ย้อนรอยสตาร์ลูกหนัง ที่แจ้งเกิดจากฟุตบอลโอลิมปิค (สอง)

ย้อนรอยสตาร์ลูกหนัง ที่แจ้งเกิดจากฟุตบอลโอลิมปิค (สอง)

ตอนนี้ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ที่น่าสนใจ น่าจะเป็นฟุตบอลชายโอลิมปิคที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น แต่หลายคนอาจจะไม่ค่อยดูเท่าไร เพราะคิดว่าไม่รู้จักนักเตะเหล่านั้น เป็นดาวรุ่งซะเยอะ (ยกสเปนไว้ทีมหนึ่ง) แต่เราจะบอกว่า ดูไว้นิดหนึ่งก็ไม่เสียหาย เพราะดาวรุ่งเหล่านั้นอาจจะยกระดับกลายเป็นยอดแข้งในเวลาต่อมาก็ได้ การได้ดูไว้ก่อนจะได้โม้ได้ไง เอาล่ะวันนี้เราจะมาแนะนำกันต่อสำหรับสตาร์ลูกหนังที่แจ้งเกิดจากโอลิมปิค

ซามูเอล เอโต้

ย้อนกลับไปในปี 2000 โอลิมปิคที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทีมที่ได้แชมป์(เหรียญทอง)ในทัวร์นี้ก็คือ แคเมอรูน ฉายาเจ้าหมอผี แน่นอนว่าทีมนี้เต็มไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดี แข็งแกร่งมากมาย แต่คนที่โดดเด่นสุดก็คือ ซามูเอล เอโต้ ยอดกองหน้าที่มีความคมกริบที่เท้าเป็นอาวุธ วิ่งไวเหมือนเสือ มีสัญชาตญาณที่ดีเหมือนกับสัตว์ป่า ก่อนที่หลังทัวร์นั้นเจ้าตัวจะย้ายไปแจ้งเกิดกับทีมมายอร์ก้าแล้วไปต่อที่บาร์เซโลนา อย่างที่รู้กัน

คาร์ลอส เตเบซ

อีกหนึ่งดาวยิงอาร์เจนตินา ที่แจ้งเกิดกับทัวร์นี้ได้เหมือนกัน คาร์ลอส เตเบซ ลงแข่งในทีมชาติบ้านเกิดของปี 2004 ประเทศกรีซ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ในเวลานั้น ดาวยิงมะขามข้อเดียว มีทั้งความเร็ว ความแรง และแท็คติคที่ชวนหัวร้อน จนปั่นป่วนคู่แข่งได้เสมอ นั่นทำให้ อาร์เจนตินา สามารถก้าวไปได้ถึงเหรียญทองอีกครั้งด้วยการเฉือนเพื่อนร่วมทวีปอย่างปารากวัย ไป 1-0

อังเคล ดิ มาเรีย

ยังอยู่กับความสำเร็จของทัฟฟ้าขาวอาร์เจนตินา ที่พวกเค้าสามารถป้องกันแชมป์ได้ จากการลงเล่นในโอลิมปิค 2008 ที่ประเทศจีน การเดินทางเพื่อป้องกันแชมป์คราวนี้ อาร์เจน มาพร้อมกับเด็กระเบิด ฟอร์มเทพ หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ อังเคล ดิ มาเรีย ที่ย้ายมาเล่นในเบนฟิก้าแล้ว การมาเล่นครั้งนี้เค้าแสดงให้เห็นถึงความเร็ว พลิ้วไหว และเยือกเย็นเกินเด็กแบบสุดๆ ลูกยิงชิพข้ามหัวนายทวารบราซิล พาทีมได้แชมป์โคปปาอเมริกาในปีนี้ เค้าเคยทำมันมาแล้วในรอบชิงโอลิมปิคปีนี้แหละ แตกต่างตรงที่ผู้รักษาประตูเป็นทีมชาติไนจีเรียเท่านั้นเอง คนอะไรนิ่งเกินวัย

แมนยู โอกาสครั้งสำคัญ

แมนยู โอกาสครั้งสำคัญ

หลายคนอาจจะบอกว่า เกมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พึ่งจะชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ในเกม UCL รอบแบ่งกลุ่มมันเพิ่งจะเป็นนัดที่สองเท่านั้นเอง แต่เราจะบอกว่าการชนะในนัดนี้มีความสำคัญมาก เพราะมันจะส่งผลต่อทีมทั้งหมดในกลุ่มด้วย อีกทั้งมันยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญของพวกเค้าในการเข้ารอบต่อไปเสียแต่เนิ่นๆอีกด้วย

โอกาสเข้ารอบสดใส

อย่างแรกเลย เล่นไปสองเกม เก็บ 6 แต้มเต็ม ถือว่าโอกาสเข้ารอบสดใส เพราะว่าตอนนี้อันดับสองกับสามมีคะแนนเท่ากันที่ 3 คะแนน แถมยังต้องมาเจอกันเองในเกมที่สามอย่าง PSG และ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งทั้งคู่ต้องการผลชนะเท่านั้นหากต้องการจะมาเบียดแย่งกันเข้ารอบต่อไป ยิ่งถ้าออกเสมอล่ะก็บอกเลยว่างานเข้ามา ส่วนแมนยู เกมที่สาม เจอกับไม้ประดับประจำกลุ่มอย่าง อิสตันบูล ถ้าเน้นหน่อยและไม่พลาดกันเอง เชื่อว่าน่าจะเอาชนะได้ เก็บ 9 แต้มเต็มตุนเข้ากระเป๋าไว้ก่อน

ปิดจ็อบตั้งแต่เกมที่ 4

ทีนี้การเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิกได้ ก็อย่างที่บอกไปว่ามีผลต่อทิศทางของกลุ่มมาก มองในส่วนของแมนยูก่อน สองเกมถัดไปพวกเค้าจะลงเตะเหย้า เยือน กับ อิสตันบูล ไม้ประดับประจำกลุ่ม อย่างที่เราบอกไปว่าถ้าไม่ประมาทกันไปเอง สองเกมนี้คงต้องเก็บให้ได้ 6 คะแนนเต็ม รวมกับของเดิมที่มี เท่ากับว่าเค้าจะมี 12 แต้ม น่าจะลอยลำเข้ารอบไปแบบสบายตัวแล้ว แถมคะแนนเท่านี้น่าจะได้แชมป์กลุ่มเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั่นเท่ากับว่าพวกเค้าปิดจ็อบรอบแบ่งกลุ่มไว้ตั้งแต่เกมนัดที่ 4 ได้เลย อย่าลืมว่าในเวลาเดียวกัน อันดับ 2-3 จะมาเตะกันเองสองนัดเหย้าเยือน ซึ่งคงบดบี้กันเต็มที่แน่นอน เนื่องจากคะแนนใกล้เคียงกันเกิดบี้กันไม่ลงเสมอกันยิ่งทำให้แมนยูเข้ารอบได้ง่ายขึ้นอีกถือว่าโปรแกรมเป็นใจ

ลดจำนวนเกมลง

หากสถานการณ์ที่เรามโน คาดการณ์เอาไว้เกิดขึ้นจริงบอกเลยว่าในเกมที่ 5-6 โซลชาร์จะได้โอกาสพักนักเตะตัวหลักอย่างแน่นอน อย่าลืมว่าตอนนั้น แมนยูจะต้องเตะเกม UCL แล้วก็เกม ลีค ติดต่อกันมาถึง 5 สัปดาห์ นักเตะคงมีอาการล้าบ้าง คงจะดีถ้าเข้ารอบก่อนแล้วลดจำนวนเกมที่มีผลลงให้นักเตะสำรองได้เล่นบ้างแล้วพักตัวไปลุยต่อในลีคดีกว่า

เอฟเอคัพ รอบที่ 4 คู่ที่น่าสนใจ

เอฟเอคัพ รอบที่ 4 คู่ที่น่าสนใจ

ต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กว่าจะผ่านเข้ารอบเอฟเอคัพมาได้ นี่หืดขึ้นคอทีเดียว การเจอกับวัตฟอร์ด ว่ากันตามตรงไม่ได้ง่ายเท่าไรนัก แต่การเอาชนะเพียงแค่ 1-0 ก็ทำเอาแฟนบอลเฉพาะกิจบ่นอุบไปเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะยังแข่งรอบ 3 กันไม่จบ แต่ว่าตอนนี้ได้มีการจับสลากเอฟเอคัพ รอบ 4 กันออกมาแล้วมีคู่ไหนน่าสนใจกันบ้าง

แมนยู พบ ลิเวอร์พูล
คู่เอกของการแข่งขันรอบนี้ คงหนีไม่พ้นการเจอกันของแดงเดือด ที่คราวนี้จะมาไฟต์กันรอบนอกอีกครั้งหนึ่ง การมาเจอกันระหว่าง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล ในรอบนี้ คงเป็นอะไรที่แฟนบอลคงใส่กันเต็มที่เหมือนกัน คู่นี้เจอกันที่ไหนยังไง ก็ต้องขอเอาชนะไว้ก่อน ยิ่งถ้าเป็นบอลถ้วยแบบนี้ใครชนะได้ โม้ไปยาวจนจบซีซั่นได้เลย

ฟูแล่ม พบ เบิร์นลี่ย์
อีกคู่เป็นการมาเจอกันของ ทีมในระดับพรีเมียร์ลีคด้วยกันเองอย่าง ฟูแล่ม กับ เบิร์นลี่ย์ คู่นี้เรามองว่าน่าสนใจเพราะว่าตอนนี้ทั้งคู่ น่าจะมองไปที่การอยู่รอดในลีคมากกว่าจะมาสนใจบอลถ้วยแบบนี้ แต่ว่าการมาเจอกันของทีมในระดับพิกัดใกล้เคียงกันแบบนี้ แม้จะเป็นทีมผสม ทีมสำรองลงก็ยังน่าสนใจว่าทั้งคู่ใครจะผ่านเข้าไปได้

เซาธ์แฮมป์ตัน หรือ ชรูว์สบิวรี่ พบ อาร์เซนอล
คู่ต่อมาเราก็มองว่าน่าจะเป็นการเจอกันของ ทีมจากพรีเมียร์ลีค อาร์เซนอล ที่ไปยืนรออยู่แล้ว จะเจอผู้ชนะระหว่าง เซาธ์แฮมป์ตัน หรือ ชรูว์สบิวรี่ เรามองว่าถ้าไม่พลาดกันไปเอง นักบุญแดนใต้ ไม่น่าพลาดไปเจอกับอาร์เซนอล ทีนี้ อาร์เซนอล ในช่วงนี้ถือว่าความมั่นใจเริ่มกลับมา น่าจะมาบดกับ เซาธ์ ที่ซีซั่นนี้ฟอร์มแรงดีเหลือเกิน

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ พลีมัธ
คู่สุดท้ายเรายกการเจอของทีมต่างระดับอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เจอกับ พลีมัธ ดูจากลีคต้องบอกว่า ห่างกันเยอะเพราะพลีมัธ เล่นในลีควัน หากไล่ตามลำดับนี่คือลีคอันดับ 4 แต่จากฟอร์มของเชฟฟิลด์ ที่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร แล้วอาจจะมุ่งไปที่การเอาตัวรอดในลีคก่อนมาสนใจบอลถ้วย งานนี้ ถ้าพลีมัธ มาดีอาจจะมีพลิคล็อคได้เห

ส่องเกมประกบคู่รอบ 3 เกมคาราบาวคัพ

ส่องเกมประกบคู่รอบ 3 เกมคาราบาวคัพ

ตอนนี้แม้ว่าเกมพรีเมียร์ลีคยังไม่เตะนัดแรกกัน แต่ว่าอีกด้านหนึ่งเกมบอลถ้วยรองของเกาะอังกฤษอย่าง เกมคาราบาวคัพ เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว ตอนนี้กำลังเดินทางไปสู่รอบที่สอง แล้วรอบที่สามต่อเลย ทีนี้รอบที่สามมันสำคัญตรงที่ทีมระดับพรีเมียร์ลีคจะลงมาเตะด้วย แม้ว่ารอบสองยังเตะกันไม่เรียบร้อย ฝ่ายจัดการแข่งขันได้จับสลากเตะรอบสามไว้รอ ทีมใหญ่พรีเมียร์ลีคมีคู่ไหนน่าสนใจ
เลสเตอร์ กับ อาร์เซนอล
ต้องบอกว่ามาเจอกันเร็วไปหน่อยสำหรับ ทีมระดับพรีเมียร์ลีคที่ไม่ได้เป็นทีมในลีคเดียวกัน แต่เป็นทีมระดับบนของตารางด้วย เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเจอกับอาร์เซนอล คู่นี้จึงต้องกลายเป็นคู่เอกของเกมรอบนี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย บอกเลยว่าเกมนี้ใส่กันยับแน่นอนแม้จะเป็นถ้วยรองแต่ไม่มีใครอยากตกรอบตั้งแต่หัววันหรอก
แบรดฟอร์ด หรือ ลินคอร์น เจอกับ ลิเวอร์พูล
สำหรับลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งทีมขวัญใจแม่ยกในบ้านเรา รอบสามนี้จากที่จับสลากมาพวกเค้าไม่น่าจะยากในการเจอผู้ชนะระหว่าง แบรดฟอร์ด หรือ ลินคอร์น ดูทรงแล้วไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงเท่าไร จะมีเรื่องน่ากังวลตรงที่ลิเวอร์พูลจะได้บุกไปเยือนนี่แหละ จะทำได้ดีแค่ไหน
เรดดิ้ง หรือ ลูตัน เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อีกหนึ่งทีมที่ต้องบอกว่าน่าจะทำให้แฟนบอลใจชื้นกันไปสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะไปยืนรอบที่สาม เพื่อเจอผู้ชนะระหว่าง เรดดิ้ง หรือ ลูตัน ทาวน์ ดูทรงแล้วไม่น่าจะเป็นงานยากของแมนยูเท่าไร จะห่วงอย่างเดียวที่ต้องไปเยือนนี่แหละ ถ้าไม่พลาดกันเองก็สบายตัวไปเกมนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอกับ บอร์นมัธ หรือ คริสตัล พาเลซ
เพื่อนร่วมมืออย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องบอกว่าตรงกันข้ามเลยเจองานยากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบอร์นมัธ หรือ คริสตัล พาเลซ ใครหลุดมา แมนซิตี้ก็เหนื่อย(แต่ไม่ยากจะเอาชนะ) บวกกับความได้เปรียบเล่นในบ้านด้วย ส่วนคู่อื่น เชลซี , สเปอร์ส เจองานไม่ยากเท่าไร ถ้าไม่พลาดก็ผ่านได้สบาย